ศิธา ทิวารี หรือ ปุ่น เป็นนักการเมืองและอดีตนายทหารอากาศชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ปัจจุบันอายุ 58 ปี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมอากาศยาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาเอก สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ศิธา ทิวารี เริ่มรับราชการในกองทัพอากาศ เป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ F-5 และ F-16 เป็นเวลา 8 ปี จากนั้นได้ลาออกจากราชการเพื่อเข้าสู่วงการการเมือง เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคไทยรักไทย และเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549
หลังจากพ้นจากข้อจำกัดทางการเมือง ศิธา ทิวารี ได้กลับมาทำงานการเมืองอีกครั้ง เคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
ล่าสุด ข่าวการลาออกของ น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ “แด๊ดดี้ปุ่น” จากพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) การลาออกของ “แด๊ดดี้ปุ่น” มีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 27 วรรคสอง โดยต้องยื่นใบลาออกให้กับนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง และให้กกต. จัดการบันทึกข้อมูลลงในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมือง
ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย ในการเลือกตั้งปี 2566 ได้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของ “แด๊ดดี้ปุ่น” ศิธา ทิวารี อย่างหนัก แต่ทว่า ไม่ได้เป็นส.ส. โดยมีส.ส.เพียง 6 คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 5 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน การลาออกของ “แด๊ดดี้ปุ่น” จึงเป็นการสั่นสะเทือนให้กับพรรค ซึ่งต้องเริ่มหาผู้นำและตัวแทนที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับพรรค
ในทางปฏิบัติ การลาออกของ “แด๊ดดี้ปุ่น” อาจมีผลกระทบต่อพรรคไทยสร้างไทยในหลายๆ ด้าน อาทิ เช่น การเสียฐานเสียงที่สร้างขึ้นมาโดยศิธา ทิวารี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในการเลือกตั้งถัดไป ความมั่นคงของผู้นำพรรค รวมถึงการดำเนินนโยบายหรือโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากศิธา ทิวารี ดังนั้น การตัดสินใจลาออกนั้น เป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์ลึกซึ้ง และสะท้อนถึงความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตของพรรคไทยสร้างไทยและภาพรวมของการเมืองไทยเอง