จะรู้ จะดูได้ยังไงว่า ‘ยาหมดอายุ’ แล้ว !?

จะรู้ จะดูได้ยังไงว่า ‘ยาหมดอายุ’ แล้ว !?

จะรู้ จะดูได้ยังไงว่า 'ยาหมดอายุ' แล้ว !?

ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่ายาสามัญประจำบ้านที่พกเอาไว้ติดบ้านจะมีวันหมดอายุ แต่น้อยคนนักที่จะดูเป็น หรือสังเกตเห็นได้ว่ายาขวดไหนที่หมดอายุแล้ว ยาขวดไหนที่เสื่อมสภาพแล้ว เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เวลาที่เราจะออกไปหาซื้อยามากินเอง วันนี้เราก็มีข้อมูลจากสำนักคณะกรรมการอาหาร และยา หรือ อย. มาบอกกัน จะได้ดูเป็นไงล่ะ

วันหมดอายุของยารู้ได้ยังไง ?

  1.  ยาที่บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิต เราสามารถดูวันหมดอายุของยาได้จากข้อมูลที่ระบุอยู่บนฉลากของบรรจุภัณฑ์ อาทิ ซองยา แผงยา เป็นต้น หากบางตัวยาระบุไว้เพียงเดือนและปีที่หมดอายุ ก็จะระบุไว้เป็นสุดท้ายของเดือน
  2. ยาที่มีการแบ่งออกจากบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิต หรือการแบ่งขาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเหลว หรือของแข็ง ช่วงอายุที่ปลอดภัย คือ 1 ปี หลังจากวันที่แบ่งบรรจุ แต่ในกรณีที่บริษัทผู้ผลิตระบุวันหมดอายุที่สั้นกว่า ก็ให้คำนวณวันหมดอายุหลังจากวันที่แบ่งในช่วงที่สั้นกว่าเช่นกัน
  3. ยาที่มีส่วนประกอบของสารกันเสีย ทั้งชนิดรับประทานและใช้สำหรับภายนอก เก็บไว้ได้ไม่เกิน 6 เดือนหลังจากที่เปิดใช้
  4. ยาแห้งที่ผสมน้ำ หลังจากที่ผสมน้ำแล้ว อายุของยาให้ยึดตามข้อมูลที่ผลิตยาระบุไว้บนฉลาก
  5. ยาป้ายตา ยาหยอดตา ที่มีส่วนผสมของสารต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรค (Preservative) มีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนหลังจากที่เปิดใช้ แต่หากเป็นชนิดที่ไม่ส่วนประกอบของสารดังกล่าว ควรใช้ให้หมดภายใน 1 วัน
  6. ยาที่บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิต เมื่อมีการเปิดใช้แล้ว ต้องสังเกตลักษณะของยาควบคู่กันไปด้วย หากยามีลักษณะทางกายภาพ อาทิ กลิ่น สี รส เปลี่ยนแปลง ก็ให้หยุดใช้ยานั้นโดยทันที

ไม่ใช่แค่ข้อมูลวันหมดอายุบนฉลากที่สำคัญเท่านั้น แต่เรื่องของการจัดเก็บก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจมีผลต่อการหมดอายุของยาได้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามคำแนะนำบนฉลาก ไม่จัดเก็บยาไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิ แสง หรือความชื้น องค์ประกอบเหล่านี้มีส่วนทำให้ยาเสื่อมสภาพ หรือมีคุณภาพที่ลดลงต่ำกว่ามาตรฐานก่อนถึงวันหมดอายุ เป็นผลเสียต่อสุขภาพของเราอย่างแน่นอน

 

You Might Also Like